วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552

บ่น #4

เขียนวันที่ 14 มิย. 52

เวลา 22.23 ตามเวลาคอม



อันนี้มาว่ากันด้วยเรื่องหวัด(โรคหวัดนะ+ผิดก็ช่วยแก้ด้วยเน้อ) ตามที่เคยรู้มาก็หวัดมีหลายสายพันธุ์ จากรหัสมัน Ex. H1N1 H5N1 มันก็แบ่งได้ 2 ช่วง คือ H กะ N 2อันนี้ถ้าจำไม่ผิดมันมาจากประเภทของProteinที่เปลือกหุ้มมัน(เรียกว่าไรหว่า) เมื่อ 2 สายพันธุ์มาเจอะกันก็แลกส่วนH กะ N กันก็เป็นสายพันธุ์ใหม่
EX. H1N1 กะ H5N2 ประมาณนี้ มาเจอกันก็ได้เป็น H1N2 กะ H5N1 ละก็เจอกันภูมิคุ้มกันเรา ถ้าตัวไหนมันรอดก็ได้เป็นพันธุ์ใหม่แพร่พันธุ๋ได้ ส่วนตัวที่ไม่รอดก็ไม่มีใครสนอยู่แล้ว
แล้วก็ส่วนชนิดของH กะ N หามะเจอ ไว้เจอเด๋วมาเพิ่มให้

เฮ้อ อยากนอนฟระ นอนแบบไม่ต้องตื่นมาอีกเลย คนเราจะได้พักกันจริงๆก็ตอนนอนตายนั่นละ ลองคิดๆดูถ้าคนทั้งโลกตายไป แล้วมันจะเป็นไงต่อ? เรายังจะรู้อะไรอีกหรือไม่?

เอาเหอะ ไม่ค่อยมีไรพล่ามมาก ไม่รู้จาบอกเรื่องไหนดี อยากได้เรื่องแบบไหนรีเควสมาได้ละกัน จบๆมันไป

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552

บ่น #3

เขียนวันที่ 13 มิย. 52
เวลา 22.58 ตามเวลาคอม

เอาละ ก่อนเริ่มมันก็ต้องเริ่มที่การไปอยุธยา!!! วันศุกร์ตื่นมาเตรียมตัวไปอยุทธากันอย่างสนุกสนาน และแน่นอนมันก็ต้องมีคนมาไม่ทันกันอยู่ดี คิดๆดูเลยเกือบทุกๆเรื่อง มันต้องมีคนมาก่อน และคนมาทีหลัง (l4d smoker จับคนช้า1นาย 55+hunter กระโดดเข้าตัวซ่าอีกตัว 55) ก็อย่างว่า ในเกมการไปไวอาจทำให้ตายได้กันทั้งทีม และการไปช้าก็อาจจะได้นอนกองกันอยู่ตรงนั้นไปเลย แต่ดูในความเป็นจริงกันหน่อย ส่วนมากแล้วเราคงไม่ชอบรอใครนานๆหรอกเนอะ ไปก่อนไว้จะดีกว่า

ไปอยุธยาต่อ อืม ปรากฎว่าแต่ละกลุ่มจะไม่ได้ไป 1 สถานที่(เพิ่งรู้ตอนกลับ) ขาดกันไปแต่ละกลุ่ม ขาตอนไปก็มีบรรยายต่างๆซะเต็มที่ ขากลับก็มีสนุกสนาน โดยรวมก็แจ๋มเลย(ใบงานที่ให้ทำไม่แจ๋มอะ)

หมดอยุธยาละ เล่าอย่างอื่นกันต่อ ไหนๆก็เล่าเรื่องมามิ้ไปละ มาเรื่องของ Genie กันมั่ง(ที่มาของID Bnetนั่นละ) ว่ากันด้วย ID กันก่อน
"Genie-N2O"
ไอดีนี่แบ่งได้ 2ส่วน คือ Genie กะ N2O
N2O=สูตรสารเคมีนี่ละ ตั้งตอนม.3 ความรู้ก็ฟายๆ จะเอาเป็นNitrous Oxide ละก้อออกมาเป็นนี่(ใช่Nitrousป่าวฟระ)
Genie=Genie -*- อธิบายไงดี คือ ชื่อนี้มาจากชื่อคน คนที่กุชอบตอนม.3 ชื่อเล่นเค้าละมาดัดนิดหน่อย(ทายมา เค้าชื่อไรเอ่ย?) ตอนนี้ชื่อ Genie เลยกลายเป็นชื่อเรียกสำหรับคนที่เราชอบรึรักไปแทน (Forbidden)

จบแบบย่อๆ คิดไรไม่ออกต่อ คิดต่อนิด เอ่อ ข้อแขนลั่นกันมั่งมั้ยนี่? ตอนพบแขนละยืดมา เป้าะ น่าห่วงๆ พอ จบ จบ จบ

PS.ขากลับถึงโรงเรียนทุ่มฟ่าๆ แมร่งก็ยังจาไปเล่นกันอีกเนอะ ยอดรวมถึงบ้านก็ 3 ทุ่มฟ่าๆ เฮ้อ

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

บ่น #2

เขียนวันที่ 8 มิย.52
เวลา 22.34 ตามนากาคอม

ต่อจากที่ว่าถ้าไม่มีเกมส์ชีวิตตูจามีอะไร?

จะเริ่มก็ต้องเกริ่นตั้งแต่แรกก่อน (เตรียมเป็นเรียงความได้) เริ่มต้นที่เป้าหมายในชีวิตกุตอนแรกก่อนละกัน ตอนแรกก็กะว่าอยู่เพื่อเล่นเกมส์อย่างเดียว ชีวิตจะไร้แก่นสารมาก พอมันถึงเวลาก็กะฆ่าตัวตาย จบเรื่องไปเลย (โหด เลว ชั่ว)

ถ้าถามว่าไม่สงสารพ่อแม่หรือ ตอบก็คือไม่ เพราะ เหตุมันเยอะ(ไม่อยากเล่า/ป่าวประกาศเรื่องนี้)

แต่ก็ชีวิตจะเริ่มมีแก่นสารขึ้นหน่อยละตอนนี้ เหตุก็ได้เจอะ"มามิ้"
มามิ้ ก็คือแม่นั่นเอง ในที่นี้ไม่ใช่แม่จริงๆของกระผมนะ ก็เริ่มมาจากการได้เจอคนๆนึงในบีเนต(อ้าก เกมส์อีกแล้ว) ย่อเลย ก็รู้จักกันละก็ให้เค้าเป็นมามิ้ตรู ก็นะ ถ้าจะให้ชีวิตมีจุดมุ่งหมายดีๆ(นี่ความคิดตูนะ) เราควรจะมีคนที่เราต้องพยายามเพื่อเค้า โดยปกติแล้วก็ไม่ค่อยได้บีเนตละก็เจอเค้าแค่ใน msn ละ (คล้ายกรณีของไอ้แท็กกับส้ม) แค่ได้เจอ ได้คุยดีๆกะเค้าละเราก็มีกำลังใจแล้วเนอะ (แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยจะเจอ สงกะสัยโดนบล็อก T.T(แต่เค้าบอกว่า msn เค้า sign in ไม่ได้ เชื่อครับเชื่อ))

การได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นนะมันต้องมีการลวงหลอกกันอยู่แล้ว ไม่ว่าเค้าจะหลอกเรา รึเราเป็นคนหลอกเค้า หรือหลอกทั้งคู่ และไม่หลอกทั้งคู่(หายากนะ) แต่ถึงไงก็ตาม ถ้าคำลวงหลอกนั้นมันดีกับเรา(รึที่เราคิดว่าดี)มันก็ดีใช่ปะละ หรือพวกคำด่าแต่มันตรงตัวนี้ก็เจ็บจี้ดเลย 55 (ตัวอย่าง บอกแท็กกาก จริงมั้ย? จริง! แมร่งเจ็บด้วย กับ แท็กแมร่งดอทโหดสาด จริงมั้ย? ไม่แน่ใจวะ แต่แมร่งก็ดีใจเล็กๆ ประมาณนี้) คำชมย่อมดีกว่าด่าใช่มั้ย?

เอ้อ ขอบคุณเพื่อนๆที่ชวนกุไปร้านเกมส์ และที่แมร่งไม่เคยจะฟังกุ+เห็นด้วยกะกุหน่อย มันทำให้เราเป็นลม! (บวกกะลิงอันเก่าเป็นลิงลม(ญาติปูลม) -*-) เพื่อนที่มาบอกไม่ให้กุฆ่าตัวตาย(ขอบคุณจริงๆ) ละอีก 9ล9 ที่ไม่ได้เอ่ยถึงและที่คิดแล้วลืมพิมเข้ามา (ช่างเหอะ) ถึงแม้ที่พวกนี้มันทำก็จะเป็นการหลอกลวงรึประชดรึไรต่างๆที่ไม่ดีทั้งหลายแหล่ แต่ที่แมร่งพูดมาก็ดีสำหรับกุ (เล่นเกมส์ไม่เอานะเว่ย(พูดไปงั้นละ))

โดยรวมก็นะ กระป๋มก็คิดว่ามีคนให้เราพยายามดีกว่าต้องพยายามด้วยตัวคนเดียวนะ อย่างน้อยให้เรามีจุดหมายที่เราต้องพยายามขึ้นเพื่อให้เราพัฒนาตัวเองขึ้น

แถมเรื่องการมองโลกหน่อย มันก็มี 2 แบบ
1.แง่ดี แง่ดีก็ตามชื่อ คิดแล้วดี(มั้ง) เรื่องของความเป็นไปได้ที่อยู่บนขอบของการเป็นเรื่องดี (รู้ว่าพ่อเค้าตายหน้าเปียกด้วยน้ำตาละบอกคิดไปว่าเค้าว่ายน้ำมา)
2.แง่ร้าย แง่ของความเป็นจริง ความเป็นไปได้ที่มันแย่ๆทั้งหลาย คิดละทำใจไว้ซะ (พ่อเพื่อนโดนรถชนละคิดไปว่าพ่อเค้าเท่งทึงชัว)

จบละดีฟ่ามั้งนี่ ยิ่งเขียนยิ่งมั่ว ดูท่าออกจากเรื่องเกมส์เป็นอะไรเลยนี่ เฮ้อ

PS.ใครอ่านละงง ก็ขออภัยด้วยเน้อ ทำดีที่สุดที่จะอธิบายแล้วน่อ
PS.2 ในความน่าจะเป็นจะดูไงวะว่าอันไหนใช้ P อันไหนใช้ C ฟระ งงฟระ+ไม่ถูกชะตากะหน้าตารูปร่างนิสัยจารย์ด้วย Cm,n=Pm,n/n! สินะ(ใช่ป่าววะ)

วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2552

บ่น #1

เขียนวันที่ 6 มิย. 52
ตอน 22.32 ตามนากาคอมกระผม

เริ่มว่า เปลี่ยนเป็นบ่นแทนเพราะที่เขียนๆมันไม่เข้าแนวไดอารี่เท่าไหร่

ว่ากันด้วยอาหารแมว อาหารหมากันหน่อย เห็นโฆษนา มันก็บอกว่ามีรสนี้ รสนั้น แล้วมันจะรู้ได้ไง ? แมวกะหมามันรู้รสแล้วไง ? รึมันไม่รู้ก็ไม่รู้ น่าเอาอาหารแมวรึหมามาลองกินมั่ง เผื่อมันอร่อย คิดซะว่าเป็นซีเรียลอาหารเช้าไป 55

เหนือฟ้ายังมีฟ้า!~เหนือข้าไม่มีใคร!!! Credit: The Master
อันนี้ประโยคได้ใจเรามาก ซักวันเราจะยิ่งใหญ่ จากตำแหน่งที่ต่ำที่สุดก็ยังขึ้นสู่จุดสูงสุดได้(แบบ Spore ไง) เหนือฟ้ายังมีฟ้า แต่เหนือกุต้องไม่มีใคร!!! ถ้าเราไม่"ยิ่งใหญ่"เราก็จะถูก"ลืมเลือน" การถูกลืมเลือนมันน่าเศร้าเนอะ ถ้าคนที่เรารักรึชอบไม่สนใจเรา เมินเฉย ปฏิเสธ 9ล9 มันก็เจ็บใช่มะ คงไม่มีใครใจด้านชาขนาดไม่รู้สึกอะไรหรอก +เราเองก็อยากจะ"ยิ่งใหญ่"เพื่อให้คนที่เรารักรึชอบภูมิใจ วางใจ ชื่นชม การจะสู้มันต้องมีเหตุผล เหตุผลแค่ว่าต้องการจะเก่งก็พอ!

อีกอันละกัน ลม!! เสียงของลม คุณเคยจะฟังมันบ้างหรือไม่? หรือคุณได้ฟังมันหรือคุณแค่ได้ยิน?
ตรงใจอีกอัน มันเคยจะฟังกันมั่งมั้ย? มีใครจะเห็นด้วยกันมั้ย? มีใครจะเดินมาทางเดียวกันมั้ย? มีใครจะเดินมาด้วยกันมั้ย? คำตอบของทั้งหมดนี่คือ เงียบ(ไม่มีใครฟัง 55)

อาหารแมวละตัดเรื่องมาพวกนี้เลย เปลี่ยนเรื่องได้ไวดีเนอะ

เรื่องเกมส์กันนิด ก็อยากจะลองตัดพวกเกมส์ออกไปดู แต่ถ้าตัดออกไปละชีวิตกุจะเหลืออะไร? อ่านหนังสือ? ก็นะ รู้ๆอยู่

ละก็ดูยูทิ้ว (ฮา) mv Gee ที่มันซัพฮาๆ ก็เออแมร่ง ทำได้ฮามาก เสื่อมกันไปเลย 55 แต่ว่า บอกตรงๆหน้าพวกที่เต้นๆ กุแยกไม่ออกว่าใครเป็นใครเลย หน้าเหมือนๆกันหมด (รึว่าเราตาถั่วหว่า ฮา)

เปลี่ยนเรื่องสลับไปมามันส์มากก สรุปก็มั่วไปมั่วมา

เรื่องหลายเรื่องที่ไม่อาจจะระบายออกเป็นคำพูดได้ ความระแวง ความโง่เขลา(การไม่รู้) ความกลัว ความเหงา เศร้า ท้อแท้ ความเงียบ เสียงแห่งความเงียบ การไม่ได้พบเจอ การที่ต้องห่าง การจากลา การพลัดพราก ความตาย การลวงหลอก คำโกหก ความเป็นจริง ความฝัน คำลวงหลอกที่ต้องเชื่อ
คำพูดมันฆ่าคนได้ เช่นเดียวกับการไม่พูด คำพูดพูดมาแล้วเจ็บแรง ไม่พูดค่อยๆเจ็บ เจ็บสะสม(แบบใบเหลืองสะสมละโดนแบน ฮา) ตายทั้งเป็น อย่างง่ายๆ

แต่ทว่า บางที การได้ยินคำลวงหลอก พูดให้ดีใจ อย่างน้อย พวกนี้ก็ยังสร้างความหวัง "ในที่มืดมิดที่สุด ก็ยังมีแสงสว่างอยู่" ไม่หว่าเราจะท้อแท้เพียงใด เจ็บช้ำเพียงใด แค่คนที่เรารักมาให้กำลังใจ แค่ถามว่าเหนื่อยมั้ย ถึงแม้มันจะลวงหลอก แต่มันก็ยังให้กำลังใจเราได้อยู่ดี

คนทุกคนโกหกกันทั้งนั้น คนตายเท่านั้นที่ไม่โกหก คำพูดจะพิสูจน์ได้อย่าง 100% ก็ต่อเมื่อคนพูดนั้นตาย แต่ว่าใช้ความเชื่อใจกัน ขอแค่เชื่อมั่น คำพูดเหมือนโกหกแค่ไหนเราก็เชื่อได้

จบดีกว่ามั้ง เปลี่ยนแบบไปมาเด๋วจะตามกันไม่ทัน (ปกติก็อ่านกันไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว(ปกติของปกติ มันไม่มีคนอ่านอะดิ หายาก))

PS. เขียนหยั่งกะเรียงความเลย เหอะๆ